Category: ฮวงจุ้ย

สิ่งของที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

แน่นอนว่าบ้านทุกหลังจะต้องมีสิ่งของสำคัญที่เรานั้นจะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่าบางทีสิ่งของเรานั้นก็อาจเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ยก็เป็นได้ แล้ววันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันกับ 7 สิ่งของที่ไม่ควรมีเอาไว้ในบ้าน เพราะอาจทำให้สิ่งที่ไม่เป็นมงคลเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งจะมีอะไรที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านตามหลักฮวงจุ้ยบ้างนั้นเอามาดูกันได้เลย นาฬิกาตาย นาฬิกาตาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเก็บเอาไว้ภายในบ้านเลยทีเดียว เพราะตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่านาฬิกาที่ตายหรือนาฬิกาที่แตกหักจะทำให้เกิดความสูญเสีย หากไม่อยากทิ้งนาฬิกาเรือนนั้นก็ควรนำไปใส่ถ่านหรือซ่อมแซมให้เกิดความเรียบร้อย จานชามที่แตกแล้ว สิ่งของที่แตกหักหรือจะชามที่แตกแล้ว ไม่ควรเก็บไว้ในบ้านเป็นอันขาดและบอกเลยว่าไม่ต้องเสียดายสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้มีปัญหาด้านลบเข้ามาในชีวิต รวมไปถึงภายในบ้านได้และมักจะทำให้คุณนึกถึงใจเรื่องแย่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ผนังสีเขียว การทาผนังสีเขียว ถึงแม้จะเป็นสีแห่งธรรมชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าตามหลักฮวงจุ้ยนั้นไม่แนะนำให้ทาผนังสีนี้เท่าไหร่เพราะถือว่าเป็นผนังอัปมงคล ประตูสีดำ ประตูที่มีสีดำ ถึงแม้จะเป็นสียอดฮิตที่กำลังมาแรงแต่ตามหลักฮวงจุ้ยนั้นถือว่าประตูสีดำจะนำพามาซึ่งความโชคร้ายต่าง ๆ ประตูก็เปรียบเสมือนดวงตาที่เปิดรับสิ่งต่าง ๆ เข้ามาซึ่งเมื่อประตูมีสีดำก็อาจจะนำมาซึ่งความชั่วร้ายและทำให้สิ่งไม่ดีเข้ามาในตัวบ้านได้ ยกเว้นการที่ประตูหันไปทางทิศเหนือก็ไม่มีสิ่งใดเป็นกังวล ปฏิทินเก่า ตามหลักฮวงจุ้ยปฏิทินเก่าที่เก็บไว้นั้นจะมีการแสดงวันเดือนและปีที่ผิดไปจากเวลาในปัจจุบัน ซึ่งมันจะเป็นการสะท้อนภาพเหตุการณ์ในอดีตต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้นทำให้เกิดความคิดในเชิงลบหรือปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาได้ ต้นไม้ที่ตายแล้ว ต้นไม้ที่ตายแล้ว ถ้าถูกเก็บไว้ในบ้านจะเปรียบเสมือนการเปิดทางให้สิ่งเลวร้าย รวมไปถึงโชคร้ายได้เข้ามาสู่ตัวบ้านซึ่งนั่นก็ส่งผลต่อผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านเช่นเดียวกัน เก้าอี้ที่ชำรุดหรือเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้งาน หากในบ้านของคุณมีเก้าอี้ที่ไม่ได้ใช้งานหรือเก้าอี้ที่ชำรุดแล้วและยังวางอยู่เฉย ๆ เพื่อเป็นการตกแต่ง ตามหลักฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าเก้าอี้เหล่านี้นี่แหละ ที่จะทำให้พลังงานในด้านมืดต่าง ๆ เข้ามาสิงสู่หรือนั่งอยู่บนเก้าอี้นี้แทน ซึ่งก็แน่นอนว่าจะนำมาซึ่งความโชคร้ายและความสูญเสียภายในบ้านได้

Read story

ฮวงจุ้ยบ้านไม่ดี อาจอยู่ไม่เป็นสุข

บ้าน คือ ที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทุกคนที่เรียกได้ว่าเป็นจุดรวมพลังงานทั้งดีและไม่ดีเอาไว้ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับฮวงจุ้ยบ้านเป็นหลัก หากทางที่ตั้งบ้านมีฮวงจุ้ยที่ดีก็จะทำให้พลังงานดี ๆ นั้น เข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดายส่งผลต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านได้รับผลพลอยได้จากพลังงานดี ๆ เหล่านี้ไปด้วย แต่ในทางกลับกันหากฮวงจุ้ยบ้านไม่ดีนั้น ก็อาจทำให้ชีวิตของคุณอยู่ไม่เป็นสุขอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่าฮวงจุ้ยบ้านที่ไม่ดีเป็นอย่างไร โดยตำแหน่งบ้านที่ไม่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยมีดังนี้ บ้านอยู่บริเวณทางโค้ง บ้านที่อยู่บริเวณทางโค้งนั้น ตามหลักฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคนในครอบครัว รวมไปถึงในเรื่องของการงานก็ยังไม่ราบรื่นธุรกิจส่วนตัวที่ทำอยู่ก็อาจไม่ประสบผลความสำเร็จหรือทำการค้าไม่ขึ้น แต่ก็สามารถแก้ได้โดยการนำกระจกมาติดบริเวณบ้านเพื่อสะท้อนสิ่งที่ไม่ดีออกไปสู่ภายนอก บ้านอยู่บริเวณทางสามแพร่ง บ้านที่อยู่บริเวณทางสามแพร่งเชื่อว่าเป็นทางผีผ่าน และตามหลักฮวงจุ้ยก็ยังถือเป็นทิศทางอัปมงคลที่เชื่อว่ามีพลังงานด้านลบอยู่ในบริเวณนี้เยอะมาก ๆ ทำให้ผู้คนในบ้านนั้นในประสบผลสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งส่วนนี้สามารถแก้ได้ โดยการนำกระจกแปดเหลี่ยมมาติดไว้บริเวณหน้าบ้านเพื่อสะท้อนสิ่งไม่ดีออกไป บางที่ไม่มีรั้วบ้าน บ้านหลังไหนที่ไม่มีรั้วถือว่าผิดตามหลักฮวงจุ้ยมาก ๆ ซึ่งรั้วบ้านถือเป็นสิ่งที่ปกป้องคุ้มครองคนในบ้านเอาไว้หากไม่มีรั้วบ้านก็อาจทำให้คนในบ้านนั้นมีปัญหาในเรื่องของการเงินและยังไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ซึ่งควรสร้างรั้วบ้านให้ไม่สูงเท่ากันกับขอบกำแพงเพราะอาจทำให้เงินทองฝืดเคืองได้ บ้านที่อยู่บริเวณแม่น้ำ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว มีความเชื่อว่าน้ำจะพัดพาเอาเงินทองออกไป ดังนั้นการสร้างบ้านอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ก็อาจทำให้เงินทอง รวมไปถึงชื่อเสียงต่าง ๆ ไหลออกไปได้เช่นเดียวกัน บ้านที่สูงกว่าพื้นถนน หากบ้านใดที่มีการสร้างพื้นบ้านให้สูงกว่าถนนนั้น ตามหลักฮวงจุ้ย มีความเชื่อว่าอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง รวมไปถึงการงานได้ บนกำแพงของบริเวณบ้านมีเหล็กดัด ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วมีความเชื่อว่าหากบนกำแพงของบริเวณบ้านมีเหล็กดัดอยู่ อาจทำให้เกิดเรื่องร้อนใจรวมไปถึงปัญหาเรื่องเงินทองได้เป็นอย่างมาก กำแพงขรุขระไม่สวยงาม กำแพงที่ขรุขระดูไม่สวยงามและไม่สม่ำเสมอนั้น ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้ผู้คนในบ้านมีแต่อุปสรรคในชีวิตมากมาย รวมไปถึงยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองอีกด้วย สีบ้านเกิดการหลุดร่อน สีบ้านที่ดี จะต้องไม่หลุดร่อนและผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านยังต้องมีการทำนุบำรุงบ้านให้ดูดีเสมอ ซึ่งหากปล่อยให้เกิดความเสื่อมโทรม นอกจากจะทำให้บ้านเกิดความสวยงามน้อยลงแล้ว…

Read story

เปิดตำรา 10 ฮวงจุ้ยบ้านที่ดี

การอยู่อาศัยภายในบ้าน แน่นอนว่าหากฮวงจุ้ยบ้านของคุณดีก็จะทำให้พลังงานดี ๆ หลั่งไหลเข้ามาภายในบ้านของคุณมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนั้น ได้รับความผาสุก และมั่งมี ในเรื่องของโชคลาภเงินทอง รวมไปถึงการงานการเงินอีกด้วย ในทางกลับกันหากฮวงจุ้ยบ้านที่ไม่ดีก็อาจสร้างหายนะ และผลเสียเข้ามาได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนั้น วันนี้เราจะพาทุกท่านมาเปิดตำราดู 10 ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีว่าจะมีฮวงจุ้ยแบบไหนที่ช่วยเสริมให้บ้านของคุณนั้นดูดีพร้อมรับโชครับทรัพย์เข้าบ้านแบบจัดหนักจัดเต็มกันบ้าง ทิศทางของบ้าน ทิศทั้งของบ้าน ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งการวางตัวบ้านนั้นควรเข้าหาทางทิศใต้หรือทิศเหนือเพื่อเป็นการเปิดรับพลังงานลมธรรมชาติให้พัดอยู่ตลอดทั้งปี และยังหลีกเลี่ยงแสงแดดแม้ให้เข้าส่องตัวบ้านโดยตรงเพื่อทำให้บ้านเกิดความร่มรื่น และมีอากาศที่ถ่ายเทได้อย่างสะดวกสบายซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว หากวางทิศของบ้านไปทางทิศใต้จะช่วยเสริมดวงในเรื่องของชื่อเสียงเกียรติยศได้เป็นอย่างดี แต่หากวางฮวงจุ้ยไว้ทางทิศเหนือก็จะทำให้ผู้ที่ประกอบธุรกิจการค้าขายมีโชคลาภในด้านเงินทองค้าขายมั่งมี ทำเลที่ดี ทำเลที่ดิน ที่ดีจะช่วยเสริมให้ฮวงจุ้ยบ้านรับโชคไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งควรอยู่ในพื้นที่เรียบบริเวณบ้านจะต้องไม่มีต้นไม้ สุสาน ป่าช้า หรือ ที่ทิ้งขยะประกบข้างกัน ส่วนถนนหน้าบ้านก็จะต้องไม่ติดอยู่กับถนน 3 หน้าผาบนทางระบายน้ำ หรือ เนื้อที่ดินที่มีความแคบ และพื้นลึกเกินไป จะทำให้ฮวงจุ้ยบ้านรวยมากโชคทรัพย์พัดเข้ามาตลอดร่ำรวยมีความสุข ประตูบ้าน ประตูบ้านถือเป็นด่านแรกของการรับทรัพย์ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านนั้นจะได้รับความมั่งคั่ง และมีความสุขในระยะ 45 องศาของหน้าประตูโดยไม่มีสิ่งใดกีดขวาง หรือบดบังตัวประตูบ้าน และห้ามให้ประตูหน้าอยู่ตำแหน่งตรงกับหน้าต่างบันได ประตูหลังบ้าน รวมไปถึงประตูอื่น ๆ ภายในบ้านอีกด้วย เพราะอาจทำให้ทรัพย์สินเงินทองนั้นรั่วไหลออกไปได้ การรับแสงแดดและรับลม บ้านที่ดี และน่าอยู่จะต้องมีหน้าต่างให้พอรับแสงแดด และรับลมจากธรรมชาติในยามกลางวันที่เพียงพอ…

Read story

รั้วบ้าน จุดอันตรายของฮวงจุ้ย

ในสังคมปัจจุบันนี้ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนในบ้านคิดริเริ่มการสร้างรั้วบ้านขึ้นมา และแน่นอนว่าหลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วรั้วบ้านนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ต่อตัวบ้าน และยังสามารถแบ่งสัดส่วนของเขตกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือพื้นที่อาณาเขตของผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านนั้น ๆ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วยในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่ารั้วบ้านนี้ที่ตามหลักฮวงจุ้ยมองว่าดีนั้นจะสามารถเป็นจุดอันตรายของฮวงจุ้ยได้อย่างไรบ้างมาติดตามกันได้เลย             รั้วบ้านถือเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของบ้าน อีกทั้งยังเปรียบเสมือนกับเกาะชั้นนอกที่ช่วยปกป้องอันตรายจากภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลสัตว์หรือสิ่งอันตรายต่าง ๆ ที่จะพุ่งเข้าหาบ้านรวมไปถึงสมาชิกภายในบ้านได้อีกด้วย แต่ก็ยังมีรั้วบ้านที่จะส่งผลเสียกับฮวงจุ้ย และไม่เหมาะกับการมีรั้วแบบนี้อยู่ในบ้านของคุณโดยรั้วเหล่านั้นก็มีดังนี้ เขตอันดับที่ 1 หากเรายังอยู่ภายในตัวบ้านแล้วมองออกไปบริเวณตัวหน้าบ้าน แล้วสามารถมองเห็นชัยภูมิภายนอกได้อย่างชัดเจนกว้างขวางไม่มีอะไรบังสายตา นั่นหมายความว่าคุณจะสามารถรับพลังงาน และโชคลาภที่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างง่ายดาย ในทางกลับกันหากรั้วบ้านที่มองออกไปไม่เห็นชัยภูมิภายนอกได้ชัดเจนหรือมีสิ่งใดที่บดบังวิสัยทัศน์เหล่านั้นมากเกินไปก็จะทำให้พลังงาน และโชคลาภแห่งความสำเร็จนั้นไม่เข้าสู่ตัวบ้านได้เช่นเดียวกัน เขตอันดับที่ 2 รั้วบ้านที่เป็นเหล็กดัดมีลักษณะเป็นปลายแหลมโค้งเข้าหาตัวบ้านตัวลักษณะนี้ ถือเป็นรั้วที่น่ากลัวมากในวิชาฮวงจุ้ยซึ่งตามหลักแล้วระบบเต๋าเหมาซานการมีสิ่งที่มีลักษณะเป็นปลายแหลม หรือมุมแหลมพุ่งเข้าสู่ตัวบ้านนั้นจะทำให้ผู้คนในบ้านถูกทิ่มแทงจากสิ่งเลวร้ายอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาสุขภาพศัตรูการงานการเงินรวมไปถึงในเรื่องของโชคลาภ และเงินทองอีกด้วย เขตอันดับที่ 3 รั้วปูนที่ถูกนำเศษแก้วหรือเศษกระเบื้องแตกมาวางไว้ตามขอบเพื่อป้องกันการปีนรั้วจากคนที่ไม่ดี หรือขโมย ตามหลักฮวงจุ้ยในระบบต่อหมอฟันบอกไว้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีผลไม่ต่างกับเขตอันดับที่ 2 เพราะสิ่งที่นำมาติดเอาไว้มีลักษณะเป็นปลายแหลมที่เข้าหาตัวบ้านอีกเช่นเดียวกัน และนอกจากนี้ก็ยังมีผลกระทบกับระบบสายตาของผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งก็อาจทำให้เกิดเป็นโรคต้อได้             ดังนั้นลองหันกลับไปมองที่รั้วบ้านของคุณว่าเป็นตามลักษณะของเขตอันดับทั้ง 3 เหล่านี้หรือไม่ หากเป็นเช่นนี้แนะนำให้รีบปรับปรุงแก้ไขเพื่อกำจัดพลังงานที่ไม่ดีออกไปให้พ้นจากบ้านของคุณ และเปลี่ยนแปลงให้เป็นรั้วบ้านที่ถูกต้องตามหลักของฮวงจุ้ยเพื่อนำเอาพลังงานดี ๆ และโชคลาภเงินทองต่าง ๆ ให้หลั่งไหลเข้าสู่ตัวบ้านเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้คนในบ้านได้นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=PLc9Axbu_uk

Read story

รู้จัก ฮวงจุ้ย ระบบ เต๋าเหมาซาน

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ถ่องแท้ว่าฮวงจุ้ยในระบบนี้คืออะไร เพราะคิดเพียงว่าฮวงจุ้ยก็คือฮวงจุ้ย ซึ่งเป็นหลักในการปรับเปลี่ยนและแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ให้ดูดีและถูกต้องตามตำราเพื่อรับพลังงานดี ๆ เข้ามาในตัวบ้านมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานกันว่าคืออะไร และมีสิ่งใดที่น่าสนใจเกี่ยวกับฮวงจุ้ยในระบบนี้กันบ้าง             ฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซาน คือ พลังงานที่มีอยู่จริงในโลกและเป็นพลังงานที่ถูกถ่ายทอดความรู้มาตั้งแต่บรรพชนจนมาถึงในปัจจุบันก็เป็นระยะเวลากว่า 4,000 ปีมาแล้ว ซึ่งวิชาฮวงกับจุ้ยนั้นก็คือลมและน้ำโดยฮวงคือลมและจุ้ยคือน้ำ แต่ในระบบเตาเหมาซานวิชาฮวงจุ้ยจะว่าด้วยเรื่องของพลังงานธรรมชาติและวิญญาณที่มีอยู่จริงสามารถทดลองได้จริงและเห็นผลจริง             ซึ่งหากมีผู้ตั้งคำถามว่าปัจจุบันชาวฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานนี้ มีความสัมพันธ์อย่างไรกับชีวิต ก็ต้องขอบอกเลยว่าฮวงจุ้ยในระบบเต๋าเหมาซาน เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเลยทีเดียว ซึ่งหากเกิดความเข้าใจก็จะสามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตได้ เปรียบเสมือนกับตัวช่วยที่มีอยู่จริงในธรรมชาติที่ใช้ได้จริงและเป็นสิ่งที่คนอื่นไม่มี อีกทั้งยังเป็นระบบวิชาที่มีการตกทอดมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน             แล้วทำไมหลาย ๆ คนที่ไปค้นหาวิชานี้ตามตำราทั้งหมดที่อยู่บนโลกแต่ก็ไม่เจอ นั่นก็เป็นเพราะว่าระบบต่อมอาคารเป็นวิชาที่มีไว้สำหรับเจ้าสำนักหรือผู้ที่จะเป็นผู้คุมวิทยาการจีนทั้ง 5 ในสมัยอดีตเท่านั้นนั่นเอง จึงถือว่าระบบวิชาเต๋าเหมาซานนี้ เป็นวิชาที่มีความล้ำลึกและสื่อถึงสิ่งที่สามารถใช้ได้จริง รวมไปถึงความเชื่อเหล่านี้ก็ยังมีส่วนในการไปส่งเสริมชะตาชีวิตของคุณให้ได้เปรียบมากกว่าทุกคนได้อีกด้วย             นอกจากนี้ในส่วนของเครื่องรางของขลังต่างๆของวิชาเต๋าเหมาซานจะมีความรุนแรงและได้ผลในเชิงบวกมากกว่าฮวงจุ้ยแบบปกติตามที่พวกท่านได้เรียนรู้มา อีกทั้งยังมีวิชาคุณต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างพลังชีวิตในด้านดีและขับไล่พลังงานที่ไม่ดีออกไป ทั้งเกี่ยวกับบ้านข้าวของภายในบ้าน รวมไปถึงผู้คนได้อีกด้วย ดังนั้นหากใครที่กำลังสนใจในการเรียนวิชาฮวงจุ้ยระบบเหมาซานนี้จำเป็นที่จะต้องศึกษาให้ถ่องแท้เพื่อทำให้ชีวิตของคุณนั้นได้พบกับความสุขและความเป็นมงคลที่คุณจะได้รับ https://www.youtube.com/watch?v=PrvXHS48J6U

Read story

พลังงานยุค9 เจ้าเตาสำคัญเพราะอะไร

ตามหลักของฮวงจุ้ยยุค 9 ก็คือธาตุไฟซึ่งธาตุไฟนี้จะมีความโดดเด่นในเรื่องของความสว่างไสว ความร้อนแสงสว่างความฉลาดความรู้ใหม่รวมไปถึงความกระจ่าง และนอกจากนี้ยังหมายถึงสิ่งที่มองเห็นแต่สัมผัสไม่ได้ และเปรียบเสมือนกับสังคม และวิถีชีวิตของคนที่อยู่ในโลกออนไลน์ที่เหมือนเห็นกันแต่ไม่ได้อยู่ตรงหน้ากันจริง หรือไม่รู้จักกันด้วยซ้ำจึงถือว่าในยุค 9 นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเลยทีเดียว ทำให้เจ้าเตามีความสำคัญในยุคนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งทำไมเจ้าเตาจึงสำคัญในยุคนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน             ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนล่วงเลยมาถึงในยุคปัจจุบันหรือยุค 9 นี้พิธีกรรมที่มีความสำคัญของทุก ๆ บ้านนั้นก็คือพิธีการจุดตะเกียงเจ้าที่เพื่อเสริมให้บ้านมีพลังงานที่ดี และทำให้พลังงานในตัวเรานี้มีความเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้นซึ่งตะเกียงเจ้าที่มีความสำคัญมาก ๆ เพราะลักษณะของเจ้าที่ตามแบบฉบับของหลักฮวงจุ้ยนั้นจะเป็นบ้านเล็ก ๆ ที่มีเจ้าที่มีรูปปั้นของคนอยู่ภายในจึงนี้แหละที่เราเรียกว่าเจ้าที่ และยังเป็นตำแหน่งของการสะสมพลังงาน หรือเป็นตำแหน่งที่พลังงานตกกระทบภายในตัวบ้านอีกด้วย             โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลไหว้ตรุษจีนอากงมักจะสอนให้ไหว้เทพเจ้าเตาอยู่เสมอ จนเราเองก็ต้องตั้งคำถามว่าเจ้าเตาคือใคร ทำไมถึงสำคัญมากขนาดนี้ เพราะเทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของคนจีนมาก ๆ ซึ่งการไหว้เจ้าเตาก็คือ เตาไฟที่หุงข้าวนั่นเองซึ่งการไหว้เจ้าเตาว่ากันว่าเป็นความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยนที่เชื่อว่าเทพเจ้าเตาไฟเป็นเทพที่คุ้มครองผู้คนในบ้าน และยังจดประพฤติความดีของคนในบ้านเพื่อไปรายงานให้กับเทพเจ้าสูงสุดอีกด้วย ซึ่งการไหว้เจ้าเตามักจะมาพร้อมกับคำสอนให้ทำตัวดี ๆ มีเช่นนั้นอาจทำให้เจ้าเตารายงานเทพใหญ่ได้             นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าจะเอาเตามีหน้าที่คุ้มครองดูแลความเป็นอยู่ของคนในบ้าน และยังอำนวยพรให้โชคแก่คนในบ้าน อีกทั้งยิ่งไหว้ก็ยิ่งเฮงหากประสงค์สิ่งใดก็ให้ขอพรกับสิ่งนั้น ซึ่งสิ่งที่ใช้ไหว้เทพเจ้าเตาคือน้ำชากับขนมเข่ง และของหวานประเภทที่เหนียว เพราะเชื่อว่าหากใช้ของหวานที่เหนียวติดปากเทพเจ้าเตาจะได้รายงานเทพใหญ่ไม่สะดวก และจะทำให้รายงานแต่เรื่องดี ๆ เรื่องหวาน ๆ นั่นเอง             การไหว้เทพเจ้าเตาได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และความเชื่อของคนที่เปลี่ยนไปแต่แน่นอนว่าคนจีน และคนที่มีความศรัทธาหลาย…

Read story

ทำไมต้องไปไหว้ขอหวยและโชคลาภ

แน่นอนว่าในเรื่องของการเสี่ยงโชคเป็นเรื่องของโชคลาภทั้งสิ้น ซึ่งหากจะให้ดีก็ต้องทำการขอพรกับเทพเจ้าผู้ที่จะประทานพรในเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยเฉพาะใครที่เป็นคอหวยจะไม่รู้จักกับเจ้าพ่อยี่กอฮง เห็นทีจะเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านผู้นี้ถือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในด้านการเสี่ยงโชคเป็นอย่างมาก หรือในใครที่เล่นการพนันอยู่เป็นประจำก็มักที่จะเดินทางไปขอพรกับเทพท่านนี้ ณ สถานีตำรวจพลับพลาชัยกันอยู่บ่อยครั้ง แล้วท่านเป็นใครทำไมจึงมีผู้คนมากมายให้การเคารพนับถือเช่นนี้ วันนี้เรามีคำตอบมาบอกให้คุณได้รู้กัน ประวัติ เจ้าพ่อยี่กอฮง             เจ้าพ่อยี่กอฮง หรือ รองหัวหมื่นพระอนุวัฒน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) มีชื่อจีนว่า แต้หงี่ฮง หรือ ยี่กอฮง เกิดเมื่อวันอังคารขึ้น 10 ค่ำเดือน 3 ปีจอ พ.ศ 2394  ซึ่งยังไม่มีความแน่ชัดว่าท่านนั้นเกิดในประเทศไทยหรือเดินทางมาจากประเทศจีน โดยท่านประกอบอาชีพค้าขายและมีตำแหน่งเป็นนายอากรที่มีชื่อเสียงอยู่ในยุคนั้นเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคมพ.ศ 2479 รวมอายุได้ 87 ปี             มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า นายเกีย ผู้เป็นบิดาได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพระนคร โดยเปิดเป็นร้านขายผ้าอยู่ที่หัวมุม 4 กั๊กพระยาศรี เสาชิงช้า ซึ่งเมื่อยี่กอฮงอายุประมาณ 7 ขวบ บิดาและมารดาก็ถึงแก่กรรม ทำให้ญาติฝ่ายบิดาที่เป็นคุณจีนได้รับกลับไปอยู่ที่เมืองจีน จนกระทั่งอายุ 16 ปีท่านก็ได้กลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง…

Read story

ของ 5 สิ่ง อย่าวางหน้าบ้าน ขวางทางทรัพย์ โชคลาภ

บ้านถือเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการอยู่อาศัยและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องของฮวงจุ้ยก็มีผลที่จะช่วยส่งต่อพลังงานบวกให้กับพื้นที่โดยรอบบ้าน หากมีการจัดบ้านได้อย่างเรียบร้อยและมีความเหมาะสมตรงตามหลักฮวงจุ้ยนั่นเอง โดยเฉพาะในบริเวณหน้าบ้านที่ถือว่าเป็นจุดแรกในการรับพลังงานสำคัญจึงควรจัดให้มีความสะอาดโล่งดูไม่รกเพื่อเป็นการต้อนรับพลังงานที่ดีเข้าสู่บ้านนั่นเอง โดยของ 5 สิ่งที่ไม่ควรวางไว้หน้าบ้านเพราะอาจทำให้ทรัพย์และโชคลาภต่าง ๆ ไม่เข้าสู่ตัวบ้านได้นั้นก็มีดังนี้ ไม้กวาด ไม่ควรวางไม้กวาดไว้หน้าบ้าน เพราะเชื่อว่าไม้กวาดนั้นเป็นตัวแทนของสิ่งชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดี ซึ่งหากวางไว้หน้าบ้านก็เปรียบเสมือนการกวาดโชคลาภและสิ่งมงคลต่าง ๆ ออกจากบ้านไป ทางที่ดีควรจัดเก็บไม้กวาดไว้ในบริเวณที่ควรเก็บ ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของห้องเก็บของหรือจะเป็นในส่วนของของใช้ทั่วไปจะดีกว่า วัตถุมีคม ในหลักของฮวงจุ้ย วัตถุมีคมถือเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะหากของแหลมคมเหล่านี้ชี้ตรงมาที่บ้าน จะส่งผลเสียต่อโชคลาภของผู้คนในครอบครัวหรืออาจจะทำให้เจ้าของบ้านได้รับอันตรายจากบางสิ่งบางอย่างได้ ก๊อกน้ำที่มีน้ำรั่วซึม เมื่อน้ำเปรียบเสมือนกับโชคลาภและความมั่งคั่งหากเรานำเอาก๊อกน้ำที่มีน้ำรั่วซึมวางไว้หน้าบ้าน ก็เปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของการสูญเสียโชคลาภและความมั่งคั่งนี้ไป อีกทั้งก๊อกน้ำที่มีน้ำรั่วซึมเหล่านี้ยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคชั้นดี หากอยากมีก๊อกน้ำไว้หน้าบ้านจึงควรซ่อมแซมไม่ให้เกิดน้ำรั่วซึมและดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ ขยะหรือของที่ไม่ได้ใช้ เป็นที่ทราบกันดีว่าขยะนั้นเป็นของที่ไม่สะอาด และแน่นอนว่าในทางฮวงจุ้ยสิ่งที่ไม่สะอาดก็เป็นการก่อพลังงานที่ไม่ดี และหากนำเอาสิ่งเหล่านี้กองเอาไว้อยู่หน้าบ้านก็อาจจะนำพาสิ่งไม่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้อีกทั้งยังทำให้บริเวณบ้านดูไม่สวยงามส่งกลิ่นเหม็นไม่เป็นที่เหมาะสมต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกบ้าน ต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหน้าบ้าน หากถามว่าเราสามารถปลูกต้นไม้เอาไว้ในบริเวณบ้านได้หรือไม่ คำตอบคือได้แต่สำหรับต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมหน้าบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะหากต้นไม้ได้ปกคลุมหน้าบ้านแล้วก็เปรียบเสมือนกับการปิดกั้นทางเข้าออกของโชคลาภดังนั้นจึงไม่ควรปลูกต้นไม้เยอะจนเกินไป หรือควรดูแลและตัดแต่งกิ่งเป็นประจำเพื่อทำให้โชคลาภหลั่งไหลเข้ามาในบ้านได้นั่นเอง ดังนั้นการพิจารณาการวางสิ่งของไว้หน้าบ้านเหล่านี้ ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านพึงกระทำเพื่อให้โชคลาภและทรัพย์สินต่าง ๆ หลั่งไหลเข้าสู่บ้านพร้อมรับพลังดี ๆ จากศาสตร์ฮวงจุ้ยที่มีความเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณและสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้อยู่อาศัยมีจิตใจชื่นบานและพบกับความสุขตลอดไป อีกทั้งหากมองในด้านความเป็นจริงการวางสิ่งของเหล่านี้เอาไว้หน้าบ้าน ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ดังนั้นจึงไม่ควรนำเอา 5 สิ่งของดังกล่าววางไว้หน้าบ้านนั่นเอง

Read story

ที่ดินต้องห้าม

ในการสร้างบ้านแต่ละครั้ง เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็จะต้องมีการดูเรื่องของฮวงจุ้ยบ้านและที่ดินที่มีความเหมาะสมต่อการสร้างบ้านกันเสียทั้งนั้น ซึ่งหากได้ที่ดินที่มีความเป็นมงคลและมีทำเลที่ดีนั้น ก็จะทำให้บ้านของคุณมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเข้ามา และไม่ทำให้สิ่งชั่วร้ายเข้าไปสิงสู่ได้ซึ่งในขณะเดียวกัน หากที่ดินนั้นเป็นที่ดินต้องห้ามก็จะทำให้การสร้างบ้านหรือการอยู่อาศัยเรื่องไม่ดีขึ้นมาได้ 4 วิธี เลือกที่ดินสร้างบ้าน สร้างแล้วดี             การเลือกที่ดินหรือทำเลสำหรับการสร้างบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะแน่นอนว่าการสร้างบ้านก็ถือเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ และยังต้องอยู่อาศัยกันอย่างยาวนาน จึงทำให้ผู้ปลูกควรพิจารณาถึงรูปแบบของที่ดินและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้ถูกต้องตามตำราฮวงจุ้ยหรือมีความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยนั่นเอง โดยวิธีการเลือกที่ดินสร้างบ้านให้ดีและมีศิริมงคลมีดังนี้ ตรวจสอบข้อมูลของที่ดินผืนนั้นให้แน่ชัด การตรวจสอบข้อมูลของที่ดินผืนนั้นคือการตรวจดูภูมิหลังว่าก่อนที่จะมีการขายที่ดินที่แห่งนี้เป็นอะไรมาก่อน หากเป็นสถานพยาบาล , ศาสนสถาน , โรงฆ่าสัตว์ , หรือสุสาน เหล่านี้ควรหลีกเลี่ยง เพราะเป็นแหล่งรวมพลังงานด้านลบเอาไว้มากมาย ไม่ควรอยู่ใกล้แม่น้ำมากเกินไป ที่ดินที่ดีไม่ควรอยู่ใกล้แม่น้ำมากเกินไป เนื่องจากหากสร้างบ้านให้อยู่บริเวณใกล้แม่น้ำเสี่ยงต่อการเกิดน้ำกัดเซาะพังทลายได้ ซึ่งหากต้องการสร้างบ้านให้มีแม่น้ำ ก็ควรเว้นระยะห่างอย่างพอสมควรและไม่ควรเลือกปลูกในบริเวณที่เป็นแหล่งน้ำนิ่ง ลักษณะของที่ดินต้องห้าม ตามหลักฮวงจุ้ยที่ดินที่ดีควรมีลักษณะเป็นแปรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมคางหมู ซึ่งที่ดินเหล่านี้นอกจากจะสามารถสร้างบ้านได้อย่างสวยงามแล้วก็ยังมีความสมดุลกันทั้ง 4 ด้านทำให้เกิดความมั่นคงของผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน แต่สำหรับที่ดินที่ไม่ดีจะมีลักษณะดังนี้ มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือชายธง เป็นรูปอีโต้หรือรูปค้อน ที่ดินผืนนั้นต่ำกว่าพื้นที่โดยรอบ ที่ดินตาบอดหรือเป็นที่ที่ถูกล้อมรอบจากที่ดินของผู้อื่น ลักษณะของสภาพแวดล้อมบริเวณบ้าน นอกจากการพิจารณาในเรื่องของลักษณะที่ดินต้องห้ามให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ในเรื่องของสภาพแวดล้อมรอบบ้านก็เช่นเดียวกัน โดยสภาพแวดล้อมต้องห้ามที่ไม่ควรเลือกปลูกบ้านมีดังนี้ หากบ้านหลังนั้นอยู่ใกล้กับบริเวณศาลเจ้า ศาลพระพรหม หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง…

Read story

ประวัติพระคาถาชินบัญชร

พระคาถาชินบัญชรถือเป็นคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งคาถา ที่ตกทอดสืบมาจากลังกาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ทำการดัดแปลงแต่งเติมให้มีเอกลักษณ์พิเศษและดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากผู้ใดที่ได้ทำการสวดภาวนาคาถานี้เป็นประจำจะทำให้เขาผู้นั้นได้รับความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยอันตรายและคุณไสยต่าง ๆ รวมไปถึงศัตรูยังไม่กล้าเข้ามากล้ำกลายเขาผู้นั้นอีก             โดยพระคาถานี้มีอายุยาวนานนับร้อยปีตั้งแต่ ช่วงสมัยของรัชกาลที่ 2 มาจนถึงปัจจุบันทำให้ความศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก และยังนิยมท่องพระคาถานี้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง รวมไปถึงยังป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ให้กับตนได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแท้ที่จริงแล้วพระคาถาบทนี้ใครเป็นผู้แต่งขึ้นมา ระหว่างสมเด็จพระพุทธจารย์โต พรหมรังษี และพระมหาเถระรูปหนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญบาลีปกรณ์ จากจังหวัดเชียงใหม่ แต่ส่วนใหญ่ก็ได้ลงความเห็นว่าผู้แต่งคือสมเด็จพระพุฒาจารย์โตนั่นเอง ซึ่งแท้ที่จริงแล้วท่านเป็นเพียงผู้นำพระคาถาชินบัญชรมาเผยแพร่ต่อเท่านั้น             เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้มีการบันทึกไว้ว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ได้ไปสวดพระคาถานี้เพื่อถวายองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 และด้วยความที่บทสวดมีความไพเราะพระองค์ จึงได้ซักถามท่านว่าได้แต่งเองหรือไม่ไปเอาบทสวดนี้มาจากที่ใด ซึ่งท่านก็ได้ตอบว่า พระคาถาบทนี้เป็นสำนวนเก่าของเมืองเหนือ ซึ่งท่านก็ได้ทำการแก้ไขและดัดแปลงใหม่ ตัดตอนให้สั้นลง เพราะของลังกาจะยาวกว่านี้ นั่นก็ทำให้ความเป็นไปได้ของการคาดเดาว่าพระภิกษุชาวล้านนาเป็นคนแต่งอาจจะเป็นความจริง คาถาชินบัญชร ควรสวดวันไหน มีวิธีอย่างไร             พระคาถาชินบัญชรควรเริ่มสวดในวันพฤหัสบดีเพราะในวันนี้ถือเป็นวันไหว้ครู โดยมีพิธีในการสวดดังนี้ เตรียมดอกไม้สามสีหรือดอกบัว 9 ดอกหรือจะเป็นดอกมะลิ 1 กำก็ได้ จุดธูปเป็นเลขคี่ไม่ว่าจะเป็น 3 ,  5 ,  หรือ…

Read story