Category: วัตถุมงคล

มันตระสยาม ศูนย์รวมเครื่องรางสายมูที่ครบครัน

มันตระสยาม ศูนย์รวมเครื่องรางสายมูที่ครบครัน ในปัจจุบันกระแสความเชื่อและการเสริมดวงด้วยเครื่องรางต่างๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่คนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เชื่อมั่นในเรื่องโชคลาภ ความรัก สุขภาพ และการป้องกันภัยจากสิ่งชั่วร้าย มันตระสยาม เป็นแหล่งรวมเครื่องรางและวัตถุมงคลที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความเชื่อในสายมูเตลู ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ ความเป็นมาและจุดเด่นของ มันตระสยาม มันตระสยาม เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมเครื่องรางและวัตถุมงคลจากหลายแหล่งที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นจากไทย จีน หรือประเทศอื่น ๆ ที่มีความเชื่อในศาสตร์แห่งโชคลาภ ความเชื่อเหล่านี้ถูกนำมารวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกใช้และบูชา วัตถุมงคลแต่ละชิ้นผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการตรวจสอบคุณภาพก่อนจะถูกนำมาจำหน่ายในเว็บไซต์ จุดเด่นของเว็บไซต์นี้คือการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและชัดเจนเกี่ยวกับแต่ละวัตถุมงคล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ มันตระสยาม ยังมีบทความและแนวทางการเสริมดวงในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการบูชาเครื่องรางอย่างถูกวิธี การเสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ย หรือการใช้เครื่องรางเพื่อป้องกันภัยจากพลังงานลบ             มันตระสยาม มีการจัดหมวดหมู่สินค้าอย่างชัดเจน ทำให้การค้นหาสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกสบาย หมวดหมู่หลัก ๆ ของสินค้าบนเว็บไซต์นี้ประกอบไปด้วย: เครื่องรางเสริมดวง รวบรวมเครื่องรางที่ออกแบบมาเพื่อเสริมดวงในด้านต่าง ๆ เช่น การเงิน ความรัก การงาน และสุขภาพ ผู้ที่ต้องการเพิ่มพลังบวกในชีวิตสามารถเลือกบูชาเครื่องรางที่เหมาะสมกับดวงชะตาของตนเอง วัตถุมงคลป้องกันภัย ในหมวดนี้ประกอบด้วยวัตถุมงคลที่ช่วยในการป้องกันสิ่งไม่ดีและพลังงานลบ เช่น การป้องกันภูติผีหรือสิ่งชั่วร้าย นอกจากนี้ยังมีเครื่องรางที่ช่วยเสริมความปลอดภัยในการเดินทางหรือป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ เครื่องประดับมงคล สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใส่เครื่องประดับเพื่อเสริมดวง…

Read story

ตำนานหลวงปู่ทวด: ปกป้อง คุ้มครอง แคล้วคลาด ปลอดภัย

ตำนานหลวงปู่ทวด: ปกป้อง คุ้มครอง แคล้วคลาด ปลอดภัย หลวงปู่ทวด เป็นพระเถระผู้ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในเรื่องของการปกป้องและคุ้มครองผู้นับถือให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ แม้ท่านจะมีชีวิตอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เรื่องราวของท่านกลับเล่าขานต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในเรื่อง “ความศักดิ์สิทธิ์” และ “ปาฏิหาริย์” ที่ผู้นับถือมักเชื่อมั่นว่าท่านสามารถช่วยปกป้องและคุ้มครองผู้ที่สวดมนต์ขอพึ่งบารมีท่าน  ประวัติของหลวงปู่ทวด หลวงปู่ทวด มีนามเดิมว่า “ปู” เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2125 ที่จังหวัดสงขลา มีตำนานเล่ากันว่า ในวัยเด็กท่านเป็นเด็กที่ฉลาดและเคร่งครัดในศาสนธรรมมาตั้งแต่เล็ก เมื่อเติบโตขึ้น ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร และต่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในสมัยกรุงศรีอยุธยา หลวงปู่ทวดได้เดินทางไปศึกษาธรรมะที่กรุงศรีอยุธยา และได้รับการเคารพนับถือจากพระมหากษัตริย์และประชาชนทั่วไป ตำนานปาฏิหาริย์ “เหยียบน้ำทะเลจืด” หนึ่งในตำนานปาฏิหาริย์ที่โด่งดังที่สุดของหลวงปู่ทวดคือเรื่อง “เหยียบน้ำทะเลจืด” เล่ากันว่า ขณะที่ท่านเดินทางจากสงขลามายังกรุงศรีอยุธยาโดยทางเรือ ได้เกิดพายุและเรือประสบปัญหาน้ำดื่มหมด ลูกเรือทุกคนจึงรู้สึกหมดหวังเพราะไม่มีน้ำจืดดื่ม หลวงปู่ทวดจึงใช้เท้าเหยียบบนผืนน้ำทะเล และเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นเมื่อน้ำทะเลบริเวณนั้นกลายเป็นน้ำจืดให้ลูกเรือดื่มได้จนเพียงพอ เรื่องนี้เป็นตำนานที่เล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์และเมตตาของหลวงปู่ทวดที่ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ความศักดิ์สิทธิ์ในการปกป้องคุ้มครอง หลวงปู่ทวดมีชื่อเสียงในเรื่องของการปกป้องคุ้มครองและแคล้วคลาดจากภัยอันตราย โดยเฉพาะในเรื่องการเดินทาง หลายคนเชื่อว่าการบูชาเหรียญหลวงปู่ทวดจะช่วยปกป้องจากอุบัติเหตุและอันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางบกหรือทางน้ำ เรื่องราวของผู้ที่รอดพ้นจากอุบัติเหตุได้อย่างปาฏิหาริย์เพราะพกเหรียญหลวงปู่ทวดมีให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง เช่น ผู้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่รอดชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งที่รถได้รับความเสียหายหนัก แต่คนในรถกลับไม่เป็นอันตรายเลย นอกจากนี้ หลายคนยังเชื่อว่าหลวงปู่ทวดช่วยป้องกันจากอันตรายทางร่างกาย เช่น การถูกทำร้ายหรือการโจมตีทางกายภาพ…

Read story

เจ้าพ่อเสือเทพแห่งการปกป้อง

เจ้าพ่อเสือเทพแห่งการปกป้อง             ในช่วงตรุษจีนเราจะเห็นว่าคนไทยนิยมไปกราบไหว้เจ้าพ่อเสือกันอย่างคับคั่ง ที่ศาลเจ้าพ่อเสือและไม่เฉพาะคนเกิดปีเสือแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะไม่ว่าคุณจะเกิดปีใดก็สามารถมาขอพรและขอโชคลาภได้อย่างเสรีและวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเจ้าพ่อเสือเทพแห่งการปกป้อง ผู้ที่เป็นต้นแบบของพลังความสำเร็จที่ชาวจีนแท้และชาวไทยเชื้อายจีนเคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน เจ้าพ่อเสือคือใคร             เจ้าพ่อเสือ มีชื่อในภาษาแต้จิ๋วว่าเหล่าเอี๊ยะ และในภาษาจีนกลางว่าเสวียนเทียนซ่างตี้  คือองค์เทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนเคารพบูชามานานนับ 2000 ปี โดยมีศาลเจ้าพ่อเสือที่ตั้งอยู่บริเวณเสาชิงช้าเกิดจากคนไทยชาวแต้จิ๋วที่ได้ร่วมใจกันสร้างขึ้นมา เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงชะตาให้การทำมาค้าขายดีขึ้นและยังเป็นการปัดเป่าอุปสรรคต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต จึงนิยมมาทำการกราบไหว้ณที่แห่งนี้              โดยเจ้าพ่อเสือเป็นเทพแห่งการปกป้องที่มีฐานะเป็นขุนพลจอมทับสวรรค์เลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานหากขอพรสิ่งใดก็จะได้สมปรารถนาผู้ที่เคารพบูชากราบไหว้ส่วนใหญ่จะมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องของการทำมาค้าขายและการเสริมอำนาจบารมี รวมไปถึงโชคลาภอีกด้วย ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของท่านทำให้ชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสและหลั่งไหลมาศรัทธาอย่างที่เราได้เห็นกันตามศาลเจ้าจะพอเสือ รวมไปถึงรูปปั้นของท่านที่มีอยู่ในหลาย ๆ ศาลเจ้าบ่อยครั้ง โดยมีสัญลักษณ์เท้าเหยียบตาและเหยียบงูมือถือกระบี่ของหลี่ทงปินที่มีนัยยะว่าเป็นผู้พิชิตมารมาประจำกลุ่มดาวทางทิศเหนือบรรลุธรรมสำเร็จวิชาเต๋าขั้นสูง              โดยรูปร่างหน้าตาและอิทธิฤทธิ์ของท่านก็จะขึ้นอยู่กับท้องถิ่นและวัฒนธรรมนั้น ๆ  หากเปรียบเทียบกับในสมัยก่อนเราจะเห็นได้ว่าวิถีชีวิตของแต่ละสังคมจะอยู่ตามป่าตามเขาทำไร่ทำนากันซะส่วนใหญ่ เทพเจ้าจึงมีหน้าที่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ซึ่งความเชื่อของเทพเจ้าเสือในยุคนั้นก็คือจะเป็นผู้ปกปักรักษานาและช่วยให้การค้าขายข้าวรวมไปถึงผลผลิตต่าง ๆ มีราคาได้ผลกำไรดีแต่หากเป็นในสังคมทุนนิยมแบบยุคนี้ก็จะมีความเชื่อที่ว่าเทพเจ้าเสือจะสนับสนุนเรื่องการทำมาค้าขายให้ร่ำรวยเงินทอง รวมไปถึงโชคลาภต่าง ๆ นั่นเอง https://youtu.be/cK_Yz8YLwp4

Read story

3 ไอเท็มเครื่องประดับ เสริมดวงทั้ง เรื่องงาน ความรัก

สำหรับใครที่อยากเสริมดวงทั้งเรื่องการงาน การเงิน รวมไปถึง ความรักนั้นหากคุณเป็นสายมูเตลูที่อยากพกเครื่องรางของขลังหรือสิ่งของที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้น วันนี้เรามีสิ่งดี ๆ มาแนะนำ ถึง 3 Item เครื่องประดับเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่อยู่บนร่างกาย และยังเสริมฮวงจุ้ยตามตำราของเต๋าเหมาซานอีกด้วย แล้วจะมีเครื่องประดับใดที่ช่วยเสริมดวงเหล่านี้ได้บ้างนั้นก็มาดูกันได้เลย กำไล             กำไล นี้ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนับว่าเป็นคำมงคลซึ่งมีคำพ้องว่ากำลังใจ หรือแรงบันดาลใจ หากผู้ใดที่ได้ใส่กำไลหรือพกติดตัวเอาไว้ คุณก็จะได้รับแรงบันดาลใจจากการสวมเครื่องประดับเหล่านี้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องประดับที่มีพลังงานเชิงบวกตามหลักฮวงจุ้ยทั้งภายใน และภายนอก โดยภายใน โดยพลังงานเชิงบวกภายในคือการที่คุณได้รับแรงบันดาลใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ส่วนพลังงานเชิงบวกภายนอกก็คือ รูปพรรณสัณฐาน รวมไปถึงชนิดของกำไรที่คุณได้สวมใส่นั่นเอง เมื่อทั้งสองได้มารวมกันก็จะยิ่งเสริมพลังงานชีวิตของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น แหวน             แหวน เครื่องประดับที่เกี่ยวข้องกับฝ่ามือโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าหลาย ๆ ศาสตร์ในปัจจุบันมักจะมีความเกี่ยวข้องกับฝ่ามือ หรือแม้กระทั่งในระบบฮวงจุ้ยเต๋าเหมาซานเองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งการสวมใส่แหวนนี้ จะช่วยให้คุณสามารถบังคับพลังงานเชิงบวกตามหลักฮวงจุ้ยในระบบของเต๋าเหมาซานได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้มีแต่สิ่งดี  ๆ  เข้ามาในชีวิตทั้งเรื่องการงานการเงินรวมไปถึงความรักด้วยนั่นเอง นาฬิกา             นาฬิกา ถือเป็นไอเทมที่ช่วยเพิ่มความเที่ยงตรง และการตอบรับจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากใครที่กำลังทำธุรกิจ หรือจะต้องเจรจากับคู่ค้านั้นควรอย่างยิ่งที่จะหานาฬิกาสัก 1 เรือนมาใส่ติดตัวเอาไว้เพราะนาฬิกานี้เป็นสัญลักษณ์ของความเที่ยงตรง และแน่แท้จะทำให้พลังงานเชิงบวกเอามาหาตัวคุณได้เป็นอย่างดีซึ่งหากเป็นผู้ชายให้ใส่นาฬิกาข้อมือทางฝั่งซ้าย และหากเป็นผู้หญิงใครใส่นาฬิกาข้อมือทางฝั่งขวา จะยิ่งเสริมฮวงจุ้ย และพลังงานชี่ประจำวันให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้น…

Read story

ขุนพลทหาร5ผี มีไว้ไม่มีแพ้

หากใครที่เคยได้ยินคำว่าขุนพลทหาร 5 ผีแล้ว ถือว่าคุณไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเป็นมงคลและยังมีความเชื่อในด้านการได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่งและศัตรูอีกด้วย รวมไปถึงยังช่วยเสริมโชคลาภให้กับผู้ที่ได้ทำการบูชาได้เป็นอย่างดี และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับขุนพลทหาร 5 ผีมีไว้ไม่มีแพ้นี้กันว่าคืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรกันบ้าง             หากใครที่ได้ติดตามรายการมันตระสยามจะเห็นอยู่บ่อยครั้งว่าอาจารย์แขกมักจะพูดถึงสิ่งนี้อยู่บ่อย ๆ และจะกล่าวบอกท่านก่อนเริ่มทำพิธีกรรมสำคัญทุกครั้ง เพื่อเป็นการเปิดทางและคุมชัยภูมิในบริเวณที่ทำพิธีให้เกิดความปลอดภัยและสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ มากีดขวางซึ่งขุนพลทหาร 5 ผีเรามักจะพบเห็นได้จากหนังจีนที่เกี่ยวกับราชวงศ์โบราณหรือตั้งศาลเจ้าจีนก็ดีโดยจะ เป็นรูปปั้นหรือเป็นรูปภาพให้คนได้กราบไหว้บูชาก็มี             ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นมงคลนั้นทำให้เราพบเห็นได้บ่อยครั้ง เมื่อไปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ  ของจีนในหลาย ๆ แห่ง อีกทั้งพุทธคุณของการบูชา 5 ผีนี้หลาย ๆ คนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นหนึ่งในวัตถุมงคลที่สามารถพลิกชีวิตและปรับพลังงานของบ้านได้ด้วยฮู้เพียงผืนเดียวและตามตำนานยังมีความเชื่อว่าคุณพลทหาร 5 ผีเหมาซานเกิดขึ้นเมื่อสมัยปลายราชวงศ์ซาน เชื่อกันว่าคุณพลทหารทั้ง 5 มีส่วนช่วยในการสู้รบของทหารในยุคโบราณเพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองและความเป็นใหญ่ในด้านต่าง ๆ             ซึ่งสาเหตุที่จะต้องมีทหาร 5 ขุนพลนี้ นั่นก็เป็นเพราะสื่อถึงธาตุดินทั้ง 5 นั่นเองและในความเชื่อของการบูชาขุนพลทหาร 5 ผีนี้จะมีความเชื่อไปในทิศทางของความเป็นมงคลหากผู้ใดได้ครอบครองหรือบูชาเชื่อกันว่าสามารถเป็นใหญ่และได้รับชัยชนะเหนือคู่แข่ง รวมไปถึงศัตรูได้อีกทั้งคุณพลทหาร 5 ผียังมีพลังงานวิญญาณที่รุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นนักธุรกิจรายใหญ่หรือผู้ที่ประกอบการค้าล้วนบูชาขุนพลทหาร 5 ผีกันทั้งสิ้น อีกทั้งยังเป็นฮู้ที่ทุกบ้านและทุกธุรกิจควรมีเป็นผืนแรก เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลและสร้างโชคลาภให้กับหน้าที่การงานรวมไปถึงธุรกิจนั้น ๆ…

Read story

ยุค 9 ต้องมีสิ่งนี้! รูปหล่อเจ้าแม่กิมบ้อ

ในที่นี้มีใครเคยได้ยินเรื่องของเจ้าแม่กิมบ้อหรือเอี๋ยวตี้กิมบ้อ กันหรือไม่จึงหากใครที่เคยได้ยินชื่อของท่านผู้นี้ก็จะรู้ได้เลยว่าท่านนั้นเป็นพระธรรมารดา ซึ่งมีชื่อทางภาษาจีนว่าซ่าจะซาทีเหล่าอ้วงบ๊อหรือแม่ขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ที่สถิต ณ สวรรค์ชั้นที่ 33 นี่เอง อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าท่านนั้นทรงอิทธิฤทธิ์ 9 สายประเสริฐตามพระสูตรอีกด้วยแล้ววันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูกันว่าวัตถุมงคลอย่างรูปหล่อเจ้าแม่กิมบ้อนี้จะมีพุทธคุณ หรือพลังงานดีในด้านใดที่ควรพกติดตัวเอาไว้บ้าง             รูปหล่อเจ้าแม่กิมบ้อถือเป็นวัตถุมงคลที่ตรงกับพลังงานยุค 9 ซึ่งหลาย ๆ คนจะเห็นว่าหลาย ๆ สถานที่นั้นจะมีศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงอยู่มากมาย แต่น้อยคนมากที่จะรู้ว่าเพศที่ตรงกับพลังงานยุค 9 นี้แท้ที่จริงแล้วก็คือเจ้าแม่กิมบ้อนี่แหละโดยท่านผู้นี้เป็นเทพที่มีพลังมากกว่าไต่เสี่ยฮุกโจ้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะหาคนที่สร้างได้ไม่ยากแต่หากจะสร้างให้มีพลังงานกิมบ้อในวัตถุมงคลถือว่าหาได้ยากมาก ๆ และยังมีผู้คนที่ไม่รู้หลาย ๆ คนได้สร้างไปแล้วให้คนทรงเจิมหรือเอาไปผ่านพิธีปลุกเสกโน่นนี่ซึ่งก็อาจทำให้ไม่เกิดพุทธคุณใด ๆ ขึ้นเลย             โดยพลังงานกิมบ้อจะต้องผ่านพิธีเชื่อมดาวจากหลาย ๆ จุดจึงเจ้าแม่กิมบ้อได้ผ่านพิธีมา 2 ปีแล้ว และปลุกเสกมาโดยตลอดอีกทั้งยังเป็นเทพดาวชั้นสูงที่คุมพลังงานทอง หรือพลังงานเงินโดยตรงของยุค 9 เอาไว้ และอาจารย์แขกมันตระสยามก็มีเคล็ดวิชาฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซาน  ในยุค 9 ที่มีผลกระทบกับพลังงานในตัวคุณมาฝากโดยให้พกรูปหล่อเจ้าแม่กิมบ้อติดตัวเอาไว้ ในระหว่างที่ทำเคล็ดยุค 9 หรือในระหว่างที่ไหว้หรือเผาเพื่อให้พลังงานโชคสะสมอยู่ในตัวเรารวมไปถึงพลังงานร้ายจะไม่โดนเราด้วยนั่นเอง             เพราะฉะนั้นหากคุณเองก็มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของเคล็ดวิชาฮวงจุ้ยระบบเต๋าเหมาซานยุค 9 ก็ค้นพบรูปหล่อเจ้าแม่กิมบ้อติดตัวเอาไว้สัก 1 องค์หรือหากต้องการพลังงานยุค 9 ให้ดีกับตัวเรามากที่สุดก็สามารถนำเอาไปตั้งไว้ใกล้ ๆ…

Read story

สี่หูห้าตาคืออะไร

4 หู 5 ตาถือเป็นตำนานเรื่องเล่าที่มีการเล่าสืบต่อกันมาของทางภาคเหนือ ซึ่งหลาย ๆ คนเชื่อว่าแมลงชนิดนี้จะเป็นเทพที่จัดดลบันดาลให้โชคลาภแก่ผู้ที่ได้มาเคารพสักการะ และวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสิ่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น ว่าคืออะไรและจะสามารถบันดาลความเกี่ยวกับเรื่องใดได้บ้าง ประวัติ สี่หูห้าตา             4 หู 5 ตาหรือแมงสี่หูห้าตาตามคัมภีร์ใบลาน ของวัดแช่ช้าง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ระบุไว้ว่าในเมืองพันธุมติมีท้าวพันธุมติผู้เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองอยู่พร้อมกับมเหสีอีก 7 พระองค์ ในบริเวณทางเหนือของเมืองมีครอบครัวสองสามีภรรยาและลูกชายที่มีอายุ 7 ปี ซึ่งใน 4 ปีต่อมามารดาของเขาก็ได้เสียชีวิตไป จากนั้นบิดาก็เสียชีวิตตามไปแต่ได้มีการสั่งเสียว่าเมื่อตนตายให้นำร่างไปฝังไว้ใกล้กับกระท่อม และเมื่อศีรษะหลุดให้นำมาบูชาทุกเช้าเย็น จนเมื่อลูกชายอายุครบ 16 ปีจึงให้ลากศีรษะไปยังเมืองพันธุมติ หากศีรษะได้ไปติดอยู่ที่ใดก็ให้ทำเป็นกับดักสัตว์ไว้แทน ซึ่งลูกชายก็ได้ทำตามที่บิดาสั่งเสียเอาไว้             ในวันรุ่งขึ้นเขาได้กลับไปดูบริเวณกับดักอีกครั้ง และพบว่ามีสัตว์ใหญ่หน้าตาคล้ายหมีที่มี 4 หู 4 ตาติดกับดักอยู่ จึงได้นำกลับเอามาไว้ที่บ้านและเมื่อฟ้าเริ่มมืด เขาจึงได้ก่อไฟแต่สะเก็ดไฟแนนซ์ได้กระเด็นออกไป ซึ่งแมงตัวนี้ก็ได้กินสะเก็ดไฟนั้นทันที จนรุ่งสางก็ได้พบว่าแม้ 4 หู 5 ตาได้อุจจาระออกมาเป็นทองคำทำให้ท้าวพันธุมติได้เสนอเงื่อนไขว่าหากเขาสามารถสร้างรางน้ำทองคำขึ้นมาได้ จะยกเมืองรวมไปถึงราชธิดาที่เป็นที่หมายปองของกษัตริย์เมืองอื่น ๆ ให้ เมื่อเรื่องนี้ได้ไปถึงหูของชายหนุ่ม เขาจึงได้นำทองคำมาสร้างเป็นรางน้ำได้สำเร็จพระพันธุมติจึงได้ยกราชธิดาให้ตามที่ได้บอกไว้ แมงสี่หูห้าตา…

Read story

รู้จัก “เสาร์ 5” คืออะไร หนึ่งปีมีกี่ครั้ง ทำไมเป็นวันแรงแห่งปี?

คนไทยส่วนใหญ่จะได้ยินคำว่า “เสาร์ 5” กันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น จากปากต่อปาก หรือจากละครที่มีการนำชื่อนี้ไปตั้งเป็นชื่อเรื่องก็ดี โดยสิ่งนี้ถือเป็นความเชื่อโบราณที่มีความเกี่ยวข้องกับฤกษ์วันแรงของคนในสมัยก่อน แม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังมีการพูดถึงวันเสาร์ 5 อยู่ไม่หาย ซึ่งในปี 2567 นี้ตรงกับวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเสาร์ 5 ว่าวันนี้คือวันอะไร ทำไมจึงกลายเป็นวันแรงที่เป็นความเชื่อด้านฤกษ์พิธีกรรมต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน เสาร์ 5 คืออะไร เสาร์ 5 คือวันเสาร์ที่ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 ตามปฏิทินไทย ไม่ใช่ วันเสาร์ ที่ 5 อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจแต่อย่างใด และในปี 2561 วันที่ 13 เมษายนนั้นตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 และเป็นวันเสาร์อย่างพอดิบพอดี และในปีมะโรงนี้ถือว่าเป็นวันที่แรงอยู่พอตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังตรงกับวันสงกรานต์อีกด้วย ความเชื่อเรื่องเสาร์ 5              ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าวันเสาร์…

Read story

ตำนาน วารีกุญชร

วารีกุญชร สัตว์ในตำนานจากป่าหิมพานต์ที่ผู้คนมากมายต่างยกให้เป็นสัตว์วิเศษมีขนาดเล็กประมาณฝ่ามือมือ อยู่อาศัยกันเป็นโขลง โดยมีความเชื่อว่าหากผู้ใดที่ได้บูชาหรือได้ครอบครองวารีกุญชร เขาผู้นั้นจะได้รับความปลอดภัยจากสัตว์ป่าดุร้ายรวมไปถึงยังส่งเสริมอำนาจวาสนาบารมีทางด้านการงานและการเงิน โดยคนไทยส่วนใหญ่ที่ได้รู้จักกับวารีกุญชรก็มักจะมีเรื่องราวที่นำมาเล่าต่อ ๆ กันจนเกิดเป็นวัตถุมงคลที่คนไทยส่วนใหญ่อยากครอบครองเอาไว้เพื่อเสริมอำนาจบารมีและวันนี้เรามีตำนานของวารีกุญชรมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน ตำนานเล่าขาน วารีกุญชร             วารีกุญชร หรือ ช้างน้ำ สัตว์ในป่าหิมพานต์ที่มีรูปร่างเป็นช้างหางเป็นปลาซึ่งจะแตกต่างกับกุญชรวารีที่จะมีเท้าหน้าเพียง 2 เท้าส่วนลำตัวและหางจะเป็นปลาทั้งหมดอาศัยอยู่ในทะเลสีทันดรสามารถว่ายน้ำและดำน้ำได้ดี โดยจากรูปปั้นหรือจิตรกรรมฝาผนังต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงลักษณะของวารีกุญชรที่จะเป็นช้างผิวสีชมพูอมม่วง มีเครื่องชงระดับอยู่บริเวณขาจะมีครีบและมีส่วนต่าง ๆ เช่นเดียวกับช้างบกปกติ             ซึ่งมีเรื่องเล่าในไทยเมื่อหลาย 10 ปีก่อน จากพระธุดงค์องค์หนึ่งที่ได้ไปธุดงค์ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร อำเภอสังขละบุรีจังหวัดกาญจนบุรีโดยในช่วง 1 คืนก่อนวันเข้าพรรษาท่านใดพบกับสัตว์ขนาดเล็กที่กำลังเล่นน้ำอยู่และเมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ พบว่าเป็นช้างที่มีขนาดเล็กโดยขนาดของพวกมันก็ไม่เกินกล่องไม้ขีดไฟ ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับที่ชาวกะเหรี่ยงเชื่อกันว่าเป็นช้างน้ำซึ่งเป็นสัตว์พิเศษที่แม้แต่สัตว์ใหญ่ยังเกรงกลัว             และอีกหนึ่งเหตุการณ์ในช่วงกลางปี 2539 บริเวณป่าชายแดนไทยพม่า ก็ได้มีผู้พบซากของช้างน้ำที่มีขนาดเล็กจิ๋วจนสามารถวางบนฝ่ามือได้จึงได้มีการนำไปเอกซเรย์และพบว่าภายในก็มีโครงกระดูกต่าง ๆ เหมือนกับช้างจริง ๆ นั่นจึงทำให้เป็นที่มาของวัตถุมงคลที่เป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งชาวกะเหรี่ยงและชาวไทยต่างให้การบูชาและเคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน วารีกุญชร ความเชื่อ ความเชื่อเกี่ยวกับวารีกุญชรเชื่อว่าหากผู้ใดที่ได้บูชาและได้ครอบครองวารีกุญชรนี้ หากผู้นั้นมีเหตุให้เดินทางเข้าป่าหรือต้องพบเจอกับสัตว์ดุร้ายใด ๆ ก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย เนื่องจากวารีกุญชรเป็นสัตว์วิเศษที่แม้แต่สัตว์ขนาดใหญ่หรือสัตว์ดุร้ายมากเพียงใด ก็ยังต้องยำเกรง อีกทั้งยังเสริมวาสนาให้กับผู้เป็นเจ้าของ ทางด้านการเงินและการงานให้เกิดความสุขในชีวิตอีกด้วย          https://www.youtube.com/watch?v=1Bvt3ztAPd4

Read story

ดอกรัก ความเชื่อ วัตถุมงคล

ดอกรัก ไม้มงคลที่มีความหมายดี และเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แต่คนโบราณได้พูดถึงดอกรักนี้ว่าห้ามปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้านเพราะหากปลูกต้นไม้ชนิดนี้เอาไว้อาจจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีขึ้นในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น การมีรักซ้อน หรืออาจทำให้ความรักเกิดความยุ่งยากได้ และในทางวิทยาศาสตร์ก็ได้อธิบายว่ายางของดอกรักเป็นพิษ และไม่ควรที่จะนำมาปลูกในบริเวณบ้านนั่นเอง ซึ่งในด้านวัตถุมงคล “ดอกรัก” ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนมากมายต่างบูชาในด้านการเรียกรักเป็นอย่างมาก จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างก็มาดูกันเลย ดอกรัก ดอกไม้มงคล สู่วัตถุมงคล ด้านความรัก             ดอกรัก ลักษณะทางกายภาพ จะมีสีขาวหรือเป็นสีม่วง โดยจะออกดอกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบและมีรยางค์คล้ายมงกุฎ 5 สัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งไม้มงคลที่ผู้คนมากมายชื่นชอบ เพราะมีกลิ่นหอมและยังนิยมมาใช้ในการร้อยพวงมาลัย รวมไปถึงการทำพิธีทางศาสนาต่าง ๆ เนื่องจากหอมนานและเหี่ยวเฉาได้ยากนั่นเอง             โดยดอกรักมีความเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ให้คุณทางด้านเสน่ห์ในทางไสยศาสตร์ เป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับด้านความรัก ซึ่งในวิชาโบราณจะมีวิชาดอกรัก ซึ่งจะมีการดูวันขุดของต้นรักที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินำมาปลูก แล้วนำดินอาถรรพ์มารองกระถางเพื่อปลูกให้เป็นดอกขึ้นมา โดยจะมีช่วงเวลาในการเก็บดอกเพื่อนำมาห่อผ้ายันต์แล้วนำมาพกติดตัวเอาไว้ และมีความเชื่อว่าหากพกติดตัวจะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยม และในปัจจุบันได้นำเอาดอกรักนี้มากทำเป็นวัตถุมงคล โดยนำเอาเนื้อโลหะฟ้าผ่า เช่น ทองแดงฟ้าผ่าหินขวานฟ้าหรือโลหะใด ๆ ก็ตามที่มาจากฟ้าผ่าทั้งหมด มาเป็นมวลสาร เพื่อเปรียบเสมือนความรักและเมตตามหานิยมต้องหน้าต้องตา พบรักแบบฟ้าผ่าโดนจิตโดนใจนั่นเอง บูชาดอกรักยังไงให้ได้ผลดี             การบูชาดอกรักให้ได้ผลดีนั้น นิยมนำมาพกติดตัวเอาไว้ ซึ่งสามารถที่จะดูแลรักษาง่าย จะพกสูงหรือพกต่ำก็ได้…

Read story